Recent Stories

การปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัส (Encryption) เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลองค์กร

การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อมูลดิจิทัลถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเข้ารหัสกลายเป็นแนวป้องกันด่านสุดท้ายที่ขัดขวางแฮกเกอร์จากการอ่านหรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ถูกขโมย รายงานจาก HelpNetSecurity เปิดเผยว่า องค์กรเข้ารหัสข้อมูลบนคลาวด์เพียง 45% ของข้อมูลทั้งหมด ซึ่งหมายความว่ากว่าครึ่งของข้อมูลบนคลาวด์ยังคงอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านได้ (plaintext) ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อการถูกละเมิดข้อมูล (Data Breach)
บทความนี้นำเสนอแนวทางการเข้ารหัสข้อมูลอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ (Data at Rest) และข้อมูลที่กำลังส่งผ่านเครือข่าย (Data in Transit) รวมถึงเทคนิคการจัดการกุญแจเข้ารหัส (Key Management) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลขององค์กรได้รับการปกป้องอย่างสูงสุด

Protecting-and-Encrypting-Data-to-Ensure-Organizational-Security_01-(1).png


1. การเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ (Data at Rest Encryption)

1.1 ความสำคัญของการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ

Data at Rest หมายถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล หรือสื่อบันทึก เช่น HDD, SSD, และ Cloud Storage
ข้อมูลเหล่านี้หากไม่ได้เข้ารหัส อาจตกไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์หากอุปกรณ์ถูกขโมยหรือถูกเจาะระบบ
การเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บช่วยให้ แม้ว่าแฮกเกอร์จะเข้าถึงไฟล์ก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลได้โดยไม่มีกุญแจถอดรหัส

1.2 อัลกอริธึมที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ

✅ AES (Advanced Encryption Standard) – AES-256 เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง และใช้ในระบบคลาวด์และดิสก์เข้ารหัส
✅ BitLocker (Windows) และ FileVault (Mac) – เป็นโซลูชันการเข้ารหัสดิสก์ที่ใช้ปกป้องข้อมูลที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์
✅ Transparent Data Encryption (TDE) – ใช้ในฐานข้อมูล SQL เช่น Microsoft SQL Server และ Oracle เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่เก็บอยู่โดยอัตโนมัติ

1.3 การใช้โซลูชันเข้ารหัสสำหรับข้อมูลที่จัดเก็บ

Full Disk Encryption (FDE) – เข้ารหัสทั้งดิสก์เพื่อป้องกันข้อมูลทั้งหมดในกรณีที่อุปกรณ์ถูกขโมย
File-Level Encryption (FLE) – เข้ารหัสไฟล์หรือโฟลเดอร์เฉพาะที่มีข้อมูลสำคัญ
Cloud Storage Encryption – ใช้การเข้ารหัสฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server-Side Encryption - SSE) หรือฝั่งไคลเอนต์ (Client-Side Encryption - CSE) ในการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์

Protecting-and-Encrypting-Data-to-Ensure-Organizational-Security_02.png


2. การเข้ารหัสข้อมูลขณะส่งผ่าน (Data in Transit Encryption)

2.1 ความสำคัญของการเข้ารหัสข้อมูลขณะส่งผ่าน

ข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย เช่น อีเมล ข้อมูลธุรกรรม และไฟล์ที่ถูกอัปโหลด สามารถถูกดักฟัง (Man-in-the-Middle Attack) ได้หากไม่มีการเข้ารหัส การเข้ารหัสข้อมูลระหว่างการส่งช่วยป้องกันการสอดแนมและการโจรกรรมข้อมูลผ่านเครือข่าย

2.2 โปรโตคอลที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลขณะส่งผ่าน

✅ Transport Layer Security (TLS) – ใช้ในโปรโตคอล HTTPS, SMTPS, และ FTPS เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่รับส่งผ่านอินเทอร์เน็ต
✅ Virtual Private Network (VPN) – ใช้ IPSec หรือ SSL/TLS เพื่อเข้ารหัสทราฟฟิกทั้งหมดระหว่างอุปกรณ์และเครือข่าย
✅ End-to-End Encryption (E2EE) – ใช้ในแอปพลิเคชันส่งข้อความ เช่น Signal และ WhatsApp เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงผู้รับที่สามารถอ่านข้อความได้

2.3 เทคนิคเสริมความปลอดภัยของข้อมูลขณะส่งผ่าน

Perfect Forward Secrecy (PFS) – ลดความเสี่ยงหากกุญแจเข้ารหัสรั่วไหล โดยสร้างคีย์ใหม่สำหรับแต่ละเซสชัน
DNS-over-HTTPS (DoH) และ DNS-over-TLS (DoT) – ป้องกันการดักฟังการสืบค้น DNS
การใช้ HTTPS อย่างเคร่งครัด – บังคับให้เว็บไซต์ใช้ HTTPS ผ่าน HSTS (HTTP Strict Transport Security)

Protecting-and-Encrypting-Data-to-Ensure-Organizational-Security_03.png


3. การจัดการกุญแจเข้ารหัส (Key Management)

3.1 ความสำคัญของการจัดการกุญแจเข้ารหัส

กุญแจเข้ารหัสเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบความปลอดภัย หากกุญแจถูกขโมย ข้อมูลที่เข้ารหัสไว้จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
องค์กรต้องมีมาตรการที่แข็งแกร่งในการปกป้องกุญแจเข้ารหัสจากภัยคุกคาม

3.2 เทคนิคการบริหารจัดการกุญแจเข้ารหัส

✅ Hardware Security Module (HSM) – อุปกรณ์พิเศษที่ใช้จัดเก็บและบริหารกุญแจเข้ารหัสอย่างปลอดภัย
✅ Key Vault Services (เช่น AWS KMS, Azure Key Vault, Google Cloud KMS) – โซลูชันที่ช่วยองค์กรบริหารจัดการกุญแจเข้ารหัสแบบรวมศูนย์
✅ Key Rotation – เปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสเป็นระยะเพื่อลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของกุญแจเดิม
✅ Splitting Key (Shamir's Secret Sharing) – แบ่งกุญแจออกเป็นหลายส่วนและแจกจ่ายให้หลายฝ่ายเพื่อลดโอกาสที่กุญแจจะถูกขโมยทั้งหมด

การเข้ารหัสข้อมูลเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลองค์กร แต่ต้องมีการนำไปใช้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น การเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ, ข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย, และการบริหารจัดการกุญแจเข้ารหัส องค์กรที่ใช้มาตรการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งจะสามารถลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูล และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรที่ปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่ลดความเสี่ยง แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของตนเองอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.ibm.com/security/data-security
https://nvlpubs.nist.gov/nistpubs/FIPS/NIST.FIPS.197.pdf
https://www.cloudflare.com/learning/ssl/why-is-encryption-important/
https://aws.amazon.com/blogs/security/best-practices-for-aws-key-management/


25/04/2568
เริ่มต้นใช้งาน Cloud แบบมืออาชีพ กับ Alibaba Cloud เทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีการใช้งาน IT ให้ยืดหยุ่น ปลอดภัย และประหยัดต้นทุนมากยิ่งขึ้น ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ Cloud Computing หรือ การประมวลผลแบบคลาวด์ กลายเป็นเครื่องมือที่องค์กรทุกขนาดต่างให้ความสำคัญ และนำมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ดู 999 ครั้ง
21/04/2568
Network Security สำคัญแค่ไหน? วิธีป้องกันข้อมูลองค์กรจากแฮกเกอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ แม้ว่าหลายบริษัทจะย้ายไปใช้ระบบคลาวด์แล้ว การดูแลความปลอดภัยของเครือข่ายก็ยังสำคัญมาก ถ้าเครือข่ายไม่ปลอดภัย ข้อมูลสำคัญอาจถูกขโมยหรือเสียหายได้ บทความนี้จะพูดถึงวิธีป้องกันเครือข่าย เช่น การใช้ไฟร์วอลล์ ระบบจับผู้บุกรุก และการแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ปลอดภัยมากขึ้น
ดู 999 ครั้ง
31/03/2568
BYOD (Bring Your Own Device) Security วิธีป้องกันข้อมูลรั่วไหลและภัยไซเบอร์จากอุปกรณ์พนักงาน เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว พนักงานจึงนิยมนำสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อปส่วนตัวมาใช้ทำงาน หรือที่เรียกว่า Bring Your Own Device (BYOD) แนวโน้มนี้แม้จะเพิ่มความสะดวกสบาย แต่กลับสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมหาศาลให้กับองค์กร การบริหารจัดการอุปกรณ์ BYOD ที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจเปิดช่องให้เกิดข้อมูลรั่วไหล ตกเป็นเป้าโจมตีทางไซเบอร์ และแพร่กระจายมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว
ดู 999 ครั้ง