ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมากมาย แต่ก็แฝงไปด้วยภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น หนึ่งในภัยคุกคามที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับองค์กรทั่วโลกคือ การโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial of Service) ซึ่งมุ่งเป้าทำลายการให้บริการออนไลน์ สร้างความเสียหายทั้งด้านการเงินและชื่อเสียง
		
		 
	
 
	DDoS คืออะไร และทำไมจึงอันตราย?
	DDoS เป็นการโจมตีที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากส่งคำขอพร้อมกันไปยังระบบเป้าหมาย จนเกินขีดความสามารถในการรองรับ
	ส่งผลให้ระบบล่มหรือทำงานช้าลงอย่างมาก ผู้โจมตีมักใช้เครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกควบคุม (Botnet) เพื่อเพิ่มกำลังในการโจมตี
	ความอันตรายของ DDoS อยู่ที่ความสามารถในการสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง:
	- 
		ทำให้บริการออนไลน์หยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อรายได้และความพึงพอใจของลูกค้า
- 
		สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กร
- 
		เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการกู้คืนระบบและเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัย
	
		รูปแบบการโจมตี DDoS ที่พบบ่อย
	
		การโจมตี DDoS มีหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีเป้าหมายและวิธีการที่แตกต่างกัน
	
		- 
			การโจมตีแบบปริมาณสูง (Volumetric Attacks): ใช้วิธีส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้แบนด์วิดท์ถูกใช้จนหมด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงบริการได้
- 
			การโจมตีที่ชั้นแอปพลิเคชัน (Application Layer Attacks): มุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของแอปพลิเคชัน เช่น การส่งคำขอ HTTP ที่ซับซ้อนจำนวนมาก ทำให้เซิร์ฟเวอร์ประมวลผลไม่ทัน
- 
			การโจมตีที่โปรโตคอล (Protocol Attacks): เน้นทำลายโปรโตคอลการสื่อสารในเครือข่าย เช่น การโจมตีแบบ SYN Flood ที่ส่งคำขอเชื่อมต่อจำนวนมากจนระบบรับมือไม่ไหว
- 
			DNS Amplification Attacks: ใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อขยายขนาดของการโจมตี โดยส่งคำขอขนาดเล็กแต่ได้รับการตอบกลับขนาดใหญ่ ทำให้ระบบเป้าหมายล่มอย่างรวดเร็ว
		
			วิธีการโจมตีแบบ DDoS ที่แฮกเกอร์นิยมใช้
		
			แฮกเกอร์มีเครื่องมือและวิธีการหลากหลายในการโจมตีแบบ DDoS
		
			- 
				การใช้ Botnet: เครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกควบคุมโดยแฮกเกอร์ ใช้ในการส่งคำขอพร้อมกันจำนวนมหาศาล
- 
				บริการ DDoS-as-a-Service: แฮกเกอร์สามารถเช่าบริการโจมตี DDoS จากตลาดมืด ทำให้การโจมตีเป็นเรื่องง่ายแม้สำหรับผู้ที่ไม่มีทักษะทางเทคนิคสูง
- 
				การใช้อุปกรณ์ IoT: อุปกรณ์ IoT ที่มีความปลอดภัยต่ำมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตี DDoS เนื่องจากมีจำนวนมากและมักไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
			
				ผลกระทบของการโจมตี DDoS ต่อธุรกิจ
			
				การโจมตี DDoS สร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับองค์กรในหลายด้าน
			
				- 
					การหยุดชะงักของบริการ: ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ ส่งผลต่อความพึงพอใจและความเชื่อมั่น
- 
					ความเสียหายทางการเงิน: นอกจากรายได้ที่สูญเสียระหว่างที่ระบบล่ม ยังมีค่าใช้จ่ายในการกู้คืนระบบและเสริมความปลอดภัย
- 
					ผลกระทบต่อชื่อเสียง: การถูกโจมตีอาจทำให้ลูกค้าสูญเสียความเชื่อมั่นและหันไปใช้บริการของคู่แข่ง
- 
					ค่าใช้จ่ายในการป้องกันและกู้คืน: องค์กรต้องลงทุนในเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต
 
 
	 
 
	สถิติน่าตกใจเกี่ยวกับการโจมตี DDoS ในปี 2023
	ข้อมูลจากรายงานความปลอดภัยไซเบอร์ล่าสุดเผยให้เห็นถึงความรุนแรงของการโจมตี DDoS ที่เพิ่มขึ้น
	- 
		การโจมตีแบบ DNS Amplification เพิ่มขึ้น 68%
- 
		การโจมตีมีความซับซ้อนและปริมาณเพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับปี 2022
- 
		การโจมตีที่ชั้นแอปพลิเคชัน (Layer 7) เพิ่มขึ้น 87%
- 
		ธุรกิจการเงินและอีคอมเมิร์ซเป็นเป้าหมายหลัก โดยมีการโจมตีเพิ่มขึ้น 92%
- 
		ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการโจมตีหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ $218,000
- 
		การโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในปี 2023 มีขนาดมากกว่า 3.5 Tbps
- 
		การโจมตีในอุตสาหกรรมพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 150%
- 
		มีการตรวจพบการโจมตี DDoS เฉลี่ย 28,700 ครั้งต่อวันทั่วโลก
- 
		มี Botnet ที่ใช้งานมากกว่า 10 ล้านเครื่องในปี 2023
	กลยุทธ์การป้องกันและลดความเสี่ยงจากการโจมตี DDoS
	การป้องกันและรับมือกับการโจมตี DDoS ต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบและการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
	- 
		ใช้บริการป้องกัน DDoS ที่ทันสมัย: บริการเหล่านี้สามารถตรวจจับและบรรเทาการโจมตีแบบเรียลไทม์ เช่น การใช้ Content Delivery Network (CDN) หรือบริการคลาวด์ที่มีระบบป้องกัน DDoS ในตัว
- 
		วางแผนรับมือกับการโจมตี (Incident Response Plan): จัดทำแผนรับมือที่ครอบคลุม ระบุขั้นตอนการปฏิบัติ และกำหนดผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน
- 
		เพิ่มความสามารถในการรองรับ: ใช้เซิร์ฟเวอร์สำรอง เพิ่มแบนด์วิดท์ และกระจายโหลดเพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่สูงขึ้น
- 
		ตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่: ทำการทดสอบความปลอดภัยเป็นประจำ และปรับปรุงระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- 
		ใช้ระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์: ติดตั้งระบบที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติและแจ้งเตือนทีมงานได้ทันที
- 
		ฝึกอบรมพนักงาน: ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคาม DDoS และวิธีการรับมือเบื้องต้น
- 
		ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP): ประสานงานกับ ISP เพื่อวางแผนป้องกันและรับมือกับการโจมตีในระดับเครือข่าย
- 
		ใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning: นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยในการวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและปรับปรุงการป้องกันอย่างต่อเนื่อง
	
		
 
	ข้อแนะนำสำคัญสำหรับองค์กรในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อการโจมตี DDoS
	- 
		ลงทุนในระบบป้องกันที่ทันสมัย: ใช้โซลูชันที่สามารถปรับตัวได้ตามรูปแบบการโจมตีที่เปลี่ยนแปลงไป
- 
		สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย: ให้ความรู้แก่พนักงานทุกระดับเกี่ยวกับความเสี่ยงและวิธีการรับมือ
- 
		วางแผนและฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ: จัดทำแผนรับมือและทดสอบประสิทธิภาพเป็นประจำ
- 
		สร้างเครือข่ายความร่วมมือ: แลกเปลี่ยนข้อมูลกับองค์กรอื่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน
- 
		ติดตามแนวโน้มและพัฒนาการใหม่ๆ: อัปเดตความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการโจมตีและวิธีการป้องกันล่าสุดอยู่เสมอ
	ในโลกที่การพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การป้องกันระบบและข้อมูลจากการโจมตี DDoS ไม่ใช่เพียงเรื่องของแผนกไอที แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งองค์กร การลงทุนในการป้องกันวันนี้อาจหมายถึงการรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจและความไว้วางใจของลูกค้าในวันข้างหน้า
	ท้ายที่สุด การรับมือกับภัยคุกคาม 
DDoS เป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น องค์กรต้องพร้อมปรับตัว เรียนรู้ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่วิวัฒนาการไม่หยุดนิ่ง ด้วยความมุ่งมั่นและการเตรียมพร้อมที่ดี องค์กรจะสามารถปกป้องตนเองและดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงแม้ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
	
	
		 
	
		บริษัท ซอฟท์เดบู จำกัด (Soft De’but Co., Ltd.)
	
		Tel : +662-861-4600
	
	
	ข้อมูลอ้างอิง