เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มอบหมายให้ คุณปรนนท์ ฐิตะวรรโณ รองประธาน ส.อ.ท. และ ประธานสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม เข้าร่วมงาน ❛HORIZON 2030: COLLABORATING FOR A DIGITAL TOMORROW❜ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ณ ห้อง Ballroom ชั้น 8 โรงแรมโซแบงคอก โดยมี คุณประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ คุณศรัณย์ ทิมสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐสภา ร่วมกล่าวถึงความร่วมมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
	
	โดย คุณพีรวีท์ จรัสสิริกุลชัย ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอฟท์เดบู จำกัด และ กรรมการกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล สภาอุตฯ ร่วมสนับสนุนภาครัฐและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัล เพื่อแก้ไขปัญหาด้าน AI และการเข้าสู่สังคมสูงวัย
	
	
		 
	
	ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่ ❛
อุตสาหกรรม 4.0❜ โดยการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างกว้างขวาง แต่ทว่าปัจจุบันมีเพียง 1% ของภาคเอกชนที่สามารถผ่านจุดนี้และก้าวต่อไปได้
 
	 
	คำถามที่เกิดขึ้นคือ อีก 99% ของธุรกิจไทยทำไมยังไม่พร้อม? อะไรคืออุปสรรคสำคัญ? งาน ❛
HORIZON 2030: COLLABORATING FOR A DIGITAL TOMORROW❜ ซึ่งจัดโดย
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (The Federation of Thai Industries – FTI) จึงถูกจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อค้นหาคำตอบและวางแนวทางอนาคตสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย
	
	
		 
	
		
		ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
	
		ในการเปิดงาน ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ได้กล่าวถึงนโยบาย Cloud First Policy ที่มุ่งสู่การเป็น Cloud Hub ของภูมิภาค โดยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัยและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่กำลังเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
		 
	
		“การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อยกระดับภารกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้มีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจในอนาคต” ประเสริฐกล่าว
		
		
			 
	
		
		10 คลัสเตอร์ ‘โต๊ะกลม ดิจิทัล’
	
		ปรนนท์ ฐิตะวรรโณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม ได้กล่าวถึงการจัดงานครั้งแรกนี้ว่า มีตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนกว่า 100 องค์กรเข้าร่วมในรูปแบบ ‘Round Table Discussion’ ครอบคลุม 10 หัวข้อที่สำคัญ ได้แก่
	
		- 
			e-Government and Cybersecurity
- 
			Smart Manufacturing
- 
			Blockchain and Digital Asset
- 
			e-Commerce and Logistics
- 
			Digital Content and Game
- 
			Tourism and Events
- 
			Manpower and EdTech
- 
			Agriculture-tech
- 
			Healthcare and Wellness
- 
			AI
		ทุกหัวข้อจะถูกนำมาตกผลึกผ่านความคิดเห็นของตัวแทนผู้เข้าร่วมงาน เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
		
		
			 
	
		 
	
		การเปลี่ยนแปลงสู่ ‘ตลาดผู้ขาย’
	
		ปรนนท์เสริมว่า การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีในภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยังคงประสบปัญหาจากปัจจัยสองด้าน คือ การลงทุน (Investment) และทุนบุคลากร (Human Capital) ทั้งสองด้านนี้จำเป็นต้องเดินควบคู่ไปด้วยกัน ทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรไอทีของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
		 
	
		เพื่อเปลี่ยนจากการเป็น ‘ตลาดผู้บริโภค’ สู่ ‘ตลาดผู้ขาย’ สินค้าและบริการด้านไอที จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารภาษาสากลเพื่อส่งออกสินค้าและบริการไปยังตลาดต่างประเทศ
		 
	
		อนาคต ‘Green Digital’
	
		ปรนนท์ยังกล่าวถึงแนวทางการผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยให้เข้าสู่ ‘Green Digital’ ตามข้อตกลงในการประชุมระดับโลกว่าด้วยการจัดการกับปัญหาโลกรวน ครั้งที่ 28 (COP28) เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา โดยมีการเร่งลดก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานฟอสซิล การประชุมนี้ยังเน้นไปที่การใช้พลังงานทดแทน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต
	
		 
	
		การใช้ประโยชน์สูงสุดจาก ‘5G’
	
		ในงาน HORIZON 2030 นี้ ยังมีการระดมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ทั้งบริการทางการแพทย์ เกษตร ท่องเที่ยว ฯลฯ
		 
	
		แรงงานรุ่นใหม่หาย ‘AI’ คือ คำตอบ
	
		อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ไทยต้องเร่งให้ความสำคัญคือการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงและการเข้าสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอดของไทย
		
		
			 
	
		
		หลังสิ้นสุดการเวิร์คช็อป สภาอุตสาหกรรมฯ จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจัดทำเป็นสมุดปกขาว (White Paper) เพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และอาจนำไปเป็นต้นแบบสู่แผนงานฉบับพิมพ์เขียว (Blueprint) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยต่อไป
		 
	
		ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การเดินหน้าไปสู่อนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนยังคงเป็นไปได้อย่างแน่นอน