Recent Stories

ความปลอดภัยไร้ช่องโหว่ ScaleFusion กับการป้องกันภัยคุกคามแบบครบทุกมิติ

ทุกวันนี้ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยไวรัส แรนซัมแวร์ หรือการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ข้อมูลสำคัญขององค์กร ทั้งทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการดูแลและปกป้องอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุนี้การบังคับใช้นโยบายความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูงจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับองค์กร

ScaleFusion ได้เข้ามามีบทบาทในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยการนำเสนอระบบการบังคับใช้นโยบายที่ครอบคลุมและปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรหัสผ่านที่เข้มงวด การเข้ารหัสข้อมูล การตั้งเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติ หรือการจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่อาจเป็นภัย ทั้งหมดนี้ทำให้การป้องกันภัยคุกคามในยุคดิจิทัลเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดาย


ScaleFusion-is-Comprehensive-Threat-Protection_001.png


การตั้งรหัสผ่านเข้มงวดและการเข้ารหัสข้อมูล

หนึ่งในเสาหลักของความปลอดภัยคือการควบคุมการเข้าถึงระบบและข้อมูลสำคัญ ด้วยนโยบายการตั้งรหัสผ่านที่เข้มงวด ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดให้รหัสผ่านมีความยาวและความซับซ้อนที่เหมาะสม รวมไปถึงการบังคับให้มีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกเจาะระบบ นอกจากนี้ การเข้ารหัสข้อมูลในอุปกรณ์ยังช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกดักจับหรือเข้าถึงโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิ์
ScaleFusion มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยบังคับใช้นโยบายการตั้งรหัสผ่านและการเข้ารหัสข้อมูลแบบอัตโนมัติ ทำให้ทุกอุปกรณ์ในองค์กรได้รับการคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าข้อมูลจะถูกส่งผ่านเครือข่ายหรือถูกเก็บไว้ในเครื่อง ระบบเข้ารหัสที่ทรงประสิทธิภาพจึงช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่เหมาะสมและลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีทางไซเบอร์
 

การตั้งเวลาล็อกหน้าจอและการจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน

เมื่ออุปกรณ์ถูกปล่อยไว้โดยไม่มีการดูแล เช่น ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานไม่ได้ใช้งานอยู่ การตั้งเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติเป็นมาตรการที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ ScaleFusion ช่วยให้สามารถกำหนดเวลาในการล็อกหน้าจอได้อย่างยืดหยุ่นตามนโยบายขององค์กร ซึ่งหมายความว่าเมื่ออุปกรณ์ไม่มีการใช้งานในช่วงเวลาที่กำหนด ระบบจะล็อกหน้าจอทันที ทำให้ข้อมูลที่อาจถูกละเมิดไม่สามารถถูกเข้าถึงได้
อีกทั้งการจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชันช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมได้ว่าแอปพลิเคชันใดบ้างที่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ของพนักงาน ด้วยการเลือกเฉพาะแอปพลิเคชันที่ได้รับอนุญาตและมีความเสี่ยงต่ำ ระบบจึงช่วยลดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งหรือใช้งานแอปพลิเคชันที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ


ScaleFusion-is-Comprehensive-Threat-Protection_002.png


ฟีเจอร์ Geofencing ควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ด้วยตำแหน่งที่ตั้ง

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของ Scalefusion ที่ช่วยให้องค์กรควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คือ Geofencing เป็นการควบคุมตามตำแหน่งของอุปกรณ์ โดยระบบจะเริ่ม บันทึกตำแหน่งของอุปกรณ์ตั้งแต่วันแรกที่ถูก Enroll เข้ามาในระบบของ Scalefusion ทำให้สามารถติดตามและควบคุมการใช้งานได้อย่างแม่นยำ และสามารถปรับเปลี่ยนให้หยืดหยุ่นตามนโยบายขององค์กร รวมถึงสามารถใช้งานกับอุปกรณ์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Smartphones, Tablets หรือ IoT devices เพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถสร้างกฎการใช้งานร่วมกันหลายอุปกรณ์ได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องตั้งค่าแยกทีละเครื่อง ช่วยเพิ่มความสะดวก ในการบริหารจัดการอุปกรณ์ขององค์กร
 
ตัวอย่างเช่น :
 
  • จำกัดการใช้งานอุปกรณ์เมื่อนอกพื้นที่ที่กำหนด : หากอุปกรณ์ถูกนำออกไปนอกเขตพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาต เช่น นอกสำนักงาน หรือนอกเขตปฏิบัติงาน ระบบจะสามารถล็อกเครื่องหรือจำกัดการใช้งานบางฟีเจอร์โดยอัตโนมัติทันที
  • จำกัดการเข้าถึงการใช้กล้องในบางพื้นที่ : ในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว หรือเขตหวงห้าม องค์กรสามารถตั้งนโยบายให้ ระบบปิดการทำงานของกล้องอัตโนมัติ เมื่ออุปกรณ์เข้าสู่พื้นที่นั้น
  • ติดตามประวัติตำแหน่งเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง : ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบตำแหน่งย้อนหลังได้ว่าอุปกรณ์เคยถูกนำไปใช้งานที่ใดบ้าง พร้อมประวัติการเคลื่อนไหวอย่างละเอียด

ตัวอย่างสถานการณ์ที่ ScaleFusion ป้องกันภัยคุกคาม

ลองนึกถึงสถานการณ์ที่องค์กรหนึ่งอนุญาตให้พนักงานใช้อุปกรณ์ส่วนตัว (BYOD) ในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ หากไม่มีการบังคับใช้นโยบายที่เหมาะสม อุปกรณ์ส่วนตัวที่อาจมีมาตรฐานความปลอดภัยต่ำอาจกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้ามาละเมิดข้อมูลได้ แต่ด้วยการใช้ ScaleFusion ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดมาตรการความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้นโยบายการเข้ารหัสข้อมูล การตั้งเวลาล็อกหน้าจอ หรือการจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลขององค์กรได้รับการป้องกันแม้ในสภาวะที่อุปกรณ์ไม่ใช่ขององค์กรโดยตรง
ในอีกตัวอย่างหนึ่ง หากมีการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่พยายามเข้ารหัสไฟล์สำคัญในระบบ ScaleFusion จะตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติและส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ดูแลระบบทราบทันที ทำให้สามารถดำเนินการกักกันหรือแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่แรนซัมแวร์จะสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ขององค์กร
ด้วยการบังคับใช้นโยบายที่เข้มงวดและครอบคลุมเหล่านี้ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดข้อมูลหรือการถูกโจมตีทางไซเบอร์จึงถูกลดลงอย่างมาก ทำให้องค์กรมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะได้รับการปกป้องในทุก ๆ ด้าน
 

ความสำคัญของการบังคับใช้นโยบายความปลอดภัย

การมีมาตรการป้องกันและบังคับใช้นโยบายความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูงเป็นสิ่งจำเป็นในโลกดิจิทัลที่ภัยคุกคามมีวิวัฒนาการตลอดเวลา เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนขององค์กร ความเสี่ยงในการถูกโจมตีหรือถูกละเมิดข้อมูลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นโยบายที่เข้มงวดและครอบคลุมช่วยให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น ทุกอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญจะได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม ด้วย ScaleFusion การบังคับใช้นโยบายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนอีกต่อไป ด้วยการทำงานอัตโนมัติและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าและตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ในทุกขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา
นอกจากนี้ การมีระบบแจ้งเตือนและการรายงานเหตุการณ์ที่รวดเร็วช่วยให้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ในทันที เมื่อมีการตรวจพบกิจกรรมที่ผิดปกติ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนเพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขได้ก่อนที่ภัยคุกคามจะเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
 

ทำไมการเลือก ScaleFusion จึงเป็นทางเลือกที่ดี

การเลือกใช้ ScaleFusion เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในแง่ของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอุปกรณ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบการบังคับใช้นโยบายที่ครอบคลุม ทำให้ทุกการเข้าถึงข้อมูลและการใช้งานอุปกรณ์ในองค์กรเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
  • ความเชื่อถือและความเข้มงวด: ระบบบังคับใช้นโยบายที่มีมาตรฐานสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเข้าถึงข้อมูลจะถูกควบคุมอย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีหรือถูกละเมิดข้อมูล
     
  • การตอบสนองอย่างรวดเร็ว: เมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันที ผู้ดูแลระบบจึงสามารถแก้ไขปัญหาและกักกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที
     
  • ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง: ScaleFusion ช่วยให้สามารถปรับแต่งนโยบายและมาตรการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะขององค์กรในแต่ละสถานการณ์
     
ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมเหล่านี้ การเลือกใช้ ScaleFusion ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายในองค์กร ว่าข้อมูลและทรัพย์สินที่สำคัญจะได้รับการดูแลในระดับที่สูงที่สุด


หากลูกค้าที่มีความสนใจ ScaleFusion สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ซอฟท์เดบู จำกัด (Soft De’but Co., Ltd.)
Tel : +662-861-4600
26/05/2568
บทบาทของ AI และ Machine Learning ในการรักษาความปลอดภัย ถ้าองค์กรของเรามีข้อมูลหลายล้านรายการที่ต้องตรวจสอบในแต่ละวัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบตรวจจับภัยคุกคามสามารถแยกแยะภัยจริงออกจากสัญญาณรบกวนได้?” คำถามนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่สะท้อนถึงหัวใจของการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัลที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน ระบบแบบเดิมที่อาศัยการตั้งกฎและรายการบล็อก (blocklists) มักไม่สามารถตอบสนองได้ทันท่วงที หรือแม่นยำพอในบริบทที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การนำ AI และ Machine Learning (ML) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความปลอดภัยจึงไม่ใช่เรื่องของ “อนาคต” อีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังในวันนี้
ดู 999 ครั้ง
23/05/2568
ก้าวสู่โลกแห่ง Big Data อย่างมืออาชีพด้วย MaxCompute บน Alibaba Cloud การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจสมัยใหม่ การที่องค์กรสามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น MaxCompute ของ Alibaba Cloud เป็นโซลูชันสำหรับการจัดการและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดู 999 ครั้ง
19/05/2568
การย้ายองค์กรสู่คลาวด์ ความท้าทายและโอกาส ทุกวันนี้ “คลาวด์” ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แทบทุกองค์กรต้องพิจารณาใช้ในการพัฒนาธุรกิจของตน เกือบทุกองค์กรในปัจจุบันมีการใช้งานระบบคลาวด์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และคาดว่า 96% ของบริษัททั่วโลกจะใช้บริการคลาวด์สาธารณะภายในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าการย้ายขึ้นคลาวด์ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น ความจำเป็นเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ
ดู 999 ครั้ง